ไทย-บรูไนฯ เชื่อมสัมพันธ์ 40 ปี ลงนาม MOU 2 ฉบับ เดินหน้าร่วมมือทุกมิติ

ไทย-บรูไนฯ เชื่อมสัมพันธ์ 40 ปี ลงนาม MOU 2 ฉบับ เดินหน้าร่วมมือทุกมิติ

40 ปี ความสัมพันธ์ไทย – บรูไนดารุสซาลาม
​นับเป็นเวลากว่า 40 ที่ไทยและบรูไนฯ มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างใกล้ชิด (ไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับบรูไนฯ วันที่ 1 มกราคม 2527) เป็นพันธมิตรที่ดีของไทยต่อเรื่องต่าง ๆ โดยมีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูงอยู่เสมอ ทั้งในด้านการเมืองและความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจการค้า/การลงทุน ซึ่งก่อนหน้านี้ (10 ต.ค. 66 ) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนบรูไนฯ อย่างเป็นทางการ โดยได้เข้าเฝ้าฯ และหารือทวิภาคีกับสมเด็จพระราชาธิบดีฮาจี ฮัซซานัล บลเกียะฮ์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละฮ์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม เกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคี และประเด็นสำคัญระดับภูมิภาคและโลก
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ เสด็จฯ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในรอบ 12 ปี
(29 เม.ย. 67) เน้นย้ำความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยาวนาน สมเด็จพระราชาธิบดีฯ แห่งบรูไนดารุสซาลาม เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล พร้อมหารือเต็มคณะเพื่อกระชับความร่วมมือ
ในทุกมิติ ที่ผ่านมาตลอด 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตของ ไทย-บรูไนฯ มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ผ่านการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพระหว่างกัน ดังนี้
• ด้านเศรษฐกิจ ไทยและบรูไนฯ เสนอให้มีการตั้งกลไกการค้าทวิภาคีในระดับนโยบาย เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าโดยเฉพาะการขจัดอุปสรรคทางการค้า และหารือถึงแนวทางในการอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ และแสวงหาโอกาสมากขึ้นในการดำเนินธุรกิจและทำงานร่วมกัน
• ด้านความมั่นคงทางอาหาร ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยไทยถือเป็นประเทศที่มีผลิตภัณฑ์ฮาลาลคุณภาพสูง ในขณะที่บรูไนฯ มีมาตรฐานการรับรองฮาลาลที่ดี ไทยจึงเสนอความร่วมมือระหว่างศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยซึ่งจะจัดตั้งขึ้นเร็ว ๆ นี้ กับฝ่ายบรูไนฯ โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตร ครั้งที่ 1 ในวันที่ 7- 8 พฤษภาคม 2567
• ด้านการท่องเที่ยว ไทยและบรูไนฯ มีการลงนาม MOU ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งเสริมและอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว และกิจกรรมไมซ์ โดยบรูไนฯ ชื่นชมไทยสำหรับโครงการ “6 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาค พร้อมยินดีแสวงหาความร่วมมืออำนวยความสะดวกการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งสองฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลที่ปัจจุบันได้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่ธนาคารกลางบรูไนฯ ในการพัฒนาระบบการชำระเงินที่รวดเร็ว เช่น การชำระเงินแบบเรียลไทม์ มาตรฐาน QR Code การชำระเงินดิจิทัล และการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทั้งนี้ ไทยยินดีที่บรูไนฯ ได้เข้าร่วม และลงนามใน MoU ว่าด้วยความร่วมมือในการเชื่อมโยง การชำระเงินในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความเชื่อมโยงทางการเงินในอาเซียน
• ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน รัฐบาลบรูไนฯ มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนไทย โดยเฉพาะจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับไปศึกษาศาสนาอิสลามในประเทศบรูไนฯ พร้อมขอเสนอให้ทั้งสองฝ่ายเร่งจัดทำบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการจ้างงานแรงงานไทยในบรูไนฯ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางการศึกษา และการพัฒนาโครงการหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OVOP)
• ความร่วมมือในอาเซียน เพื่อส่งเสริมอาเซียนให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และมีความยั่งยืน ไทย – บรูไนฯเห็นพ้องในหลักการสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์อาเซียนเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ASEAN Centre for Climate Change: ACCC) ในประเทศบรูไน โดย บรูไนฯ ได้ชื่นชมไทยที่แสดงบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือในอาเซียน
• สถานการณ์ในเมียนมา ไทยและบรูไนฯ ต่างมุ่งหวังในการเห็นเมียนมาที่สงบสุข มั่นคง และเป็นเอกภาพ เพราะจะส่งผลต่อประโยชน์ร่วมกันของสมาชิกอาเซียน โดย บรูไนฯ ชื่นชมการสนับสนุนทางด้านมนุษยธรรมตามแนวชายแดนไทย - เมียนมาของไทย และพร้อมสนับสนุนความพยายามของไทยทางด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา
• สถานการณ์ในตะวันออกกลาง สมเด็จพระราชาธิบดีฯ มีพระราชดำรัสแสดงความเสียใจต่อผลกระทบของคนไทยในเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง และมุ่งหวังที่จะให้ทุกฝ่ายหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติ สำหรับไทยนายกฯ กล่าวว่าได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่คนไทยในพื้นที่ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเดินหน้าการเจรจา และบรรลุการหยุดยิงด้านมนุษยธรรม ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้มากขึ้น
ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลง (MOU) จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่
1. บันทึกความเข้าใจระหว่างกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของไทยและสำนักงานการลงทุนบรูไนฯ
2. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงทรัพยากรพื้นฐานและการท่องเที่ยวแห่งบรูไนฯ
โดย ผู้นำทั้งสองประเทศแสดงความพอใจต่อผลลัพธ์ของการเยือนและเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่อย่างเต็มที่เพื่อให้มีการดำเนินการเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังสนับสนุนให้มี
การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศในทุกระดับให้มากขึ้น เพื่อรักษาพลวัตที่ดีของความสัมพันธ์ทวิภาคีต่อไป


image รูปภาพ
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar